ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา หลายประเทศทั่วโลกตื่นตัวและมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมและมุ่งเป้าสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการที่สหประชาชาติได้ประกาศเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (UN’s 2015 Sustainable Development Goals; SDGs) เพื่อให้นานาประเทศมีส่วนร่วมในการดำเนินงานตาม SDGs ไปด้วยกันนั้น นอกจากการหารือกันเรื่องตัวชี้วัดที่เหมาะสมกับความยั่งยืนในแต่ละมิติแล้ว รูปแบบการรายงานและวิธีติดตามความก้าวหน้าในการดำเนินการตามเป้าหมายของ SDGs ก็เป็นเรื่องที่สำคัญ
การรายงานการดำเนินงานตามเป้าหมายของ SDGs ของประเทศไทย มีปรากฏใน 2 รายงาน คือ Asia and The Pacific SDG Progress Report 2021 หรือรายงานความก้าวหน้าเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของเอเชียและแปซิฟิก 2021 ซึ่งเป็นรายงานการวิเคราะห์ความก้าวหน้าและประเมินช่องว่างที่จะต้องเติมเต็มเพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมาย SDGs ภายในปี 2030 และ Sustainable Development Report หรือเดิมใช้ชื่อ SDG Index and Dashboards ซึ่งเป็นรายงานผลการตอบสนองต่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals — SDGs) ของแต่ละประเทศ โดยใช้ข้อมูลจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ซึ่งผู้มีส่วนได้ส่วนเสียสามารถใช้ข้อมูลจากรายงาน มาประกอบการจัดอันดับความสำคัญ วางแผน นำไปปฏิบัติ และติดตามประเมินผลการพัฒนาตามวาระการพัฒนาที่ยั่งยืนได้
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ โดยดาวน์โหลดเอกสารทางด้านล่าง:
สถาบันเทคโนโลยีและสารสนเทศเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ได้จัดงานประชุมกลุ่มย่อย (Focus group) เพื่อรับฟังข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากหน่วยงานองค์กรภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ รวมไปถึงนักวิชาการ จำนวนทั้งสิ้น 15 หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องกับประเด็นการพัฒนาฐานข้อมูลตัวชี้วัดความยั่งยืนและบัญชีสิ่งแวดล้อม ภายใต้โครงการ “การวิเคราะห์ฮอตสปอตโดยใช้แบบจำลองการวิเคราะห์ปัจจัยการผลิตและผลผลิตเพื่อพัฒนาตัวชี้วัดการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศไทย” ในวันพฤหัสบดีที่ 15 กันยายน 2565 เวลา 9.00–13.00 น. ณ ห้อง มาร์ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร โดยมี รศ.ดร.ธำรงรัตน์ มุ่งเจริญ ประธานกรรมการบริหาร สถาบันฯ เป็นประธานในพิธีกล่าวเปิดงานการประชุม
ด้วยสถาบันเทคโนโลยีและสารสนเทศเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ได้กำหนดจัดงานประชุมกลุ่มย่อย (Focus group) เพื่อรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางการวัดการหมุนเวียนของวัสดุในอุตสาหกรรมก่อสร้างของประเทศไทย ในวันจันทร์ที่ ๑๕ – วันพุธที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๖๕ เวลา ๐๙.๐๐ – ๑๕.๐๐ น. ณ ห้องประชุมเจมินี่ และวีนัส ชั้น ๓ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อคัดเลือกตัวแทนวัสดุก่อสร้างและพิจารณาตัวเลขการหมุนเวียนของวัสดุ (Material Circularity Indicator: MCI) ในอุตสาหกรรมก่อสร้างของประเทศไทย: กลุ่มวัสดุมุงหลังคาและฝ้าเพดาน กลุ่มท่อประปาและท่อร้อยสายไฟ กลุ่มประตูและหน้าต่าง (กระจก) และกลุ่มกระเบื้องไวนิล กลุ่มอิฐ กลุ่มสุขภัณฑ์ และกลุ่มกระเบื้องเซรามิก รวมทั้งหาค่ามาตรฐานกลางของผลกระทบสิ่งแวดล้อมและการหมุนเวียนของวัสดุก่อสร้าง ซึ่งสามารถระบุประสิทธิภาพของวัตถุดิบทั้งหมดที่ใช้ที่ต้องมาจากส่วนประกอบที่นำกลับมาใช้ใหม่หรือวัสดุรีไซเคิลที่มีประสิทธิภาพการรีไซเคิลสูง รวมทั้งไม่มีของเสียเกิดขึ้นระหว่างการผลิต และเมื่อผลิตภัณฑ์หมดอายุจะต้องนำมาใช้ซ้ำหรือนำกลับมาใช้ใหม่ (Zero Waste) ซึ่งระดับการหมุนเวียนวัสดุของวัสดุก่อสร้างสามารถนำไปต่อยอดการคำนวณประเมินการหมุนเวียนของวัสดุในระดับการก่อสร้างอาคาร รวมทั้งเสนอแนะ แนวทางการใช้วัสดุก่อสร้างที่สนับสนุนแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน นำไปสู่การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๓ (พ.ศ. ๒๕๖๖-๒๕๗๐) ซึ่งนับเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดสำคัญ ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับกลุ่มอุตสาหกรรมก่อสร้างเพื่อแสดงถึงการหมุนเวียนของวัสดุได้
งานประชุมกลุ่มย่อย (Focus group) ดังกล่าว เกิดขึ้นภายใต้โครงการ “การพัฒนาระบบก่อสร้างอาคารโครงสร้างเหล็กสำเร็จรูปด้วยดิจิทัลแพลตฟอร์มเพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน” ซึ่งในรับงบประมาณสนับสนุนจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) โดยกลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้แทนจากส่วนราชการ สถาบันการศึกษา นักวิชาการ และผู้ทรงคุณวุฒิ ที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดนโยบายด้านระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน
รวมทั้งผู้แทนจากหน่วยงานและผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม ๗ กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มวัสดุมุงหลังคา กลุ่มอิฐ กลุ่มฝ้าเพดาน กลุ่มวัสดุปูพื้น กลุ่มประตูและหน้าต่าง (กระจก) กลุ่มท่อ (PVC) และกลุ่มสุขภัณฑ์
ปัญหาการสูญเสียอาหารนับเป็นประเด็นที่ทุกประเทศล้วนให้ความสำคัญ เนื่องจากการสูญเสียอาหารมีผลกระทบต่อความมั่นคงด้านอาหารของคนในประเทศ รวมทั้งคุณภาพอาหาร และความปลอดภัย สาเหตุของการสูญเสียอาหารแตกต่างกันตามแต่ละบริบทของประเทศนั้น ๆ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและสถานการณ์ท้องถิ่นของประเทศ เช่น การผลิตพืชทางเลือก โครงสร้างพื้นฐาน กำลังการผลิต การตลาดและช่องทางการจำหน่าย
จากการศึกษาวิจัย พบว่าปริมาณของเสียที่เหลือจากอาหารและภาคการเกษตรมีปริมาณที่สูงในขณะที่ทั่วโลกประสบปัญหาความขาดแคลนอาหารในหลายพื้นที่ ดังนั้นเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) จึงมีเป้าประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับการลดการสูญเสียอาหาร ตัวชี้วัดที่พิจารณาสำหรับเป้าประสงค์นี้ได้ถูกเสนอมาใช้ คือ ตัวชี้วัดที่ 12.3.1 ดัชนีการสูญเสียอาหารของโลก (Global Food Loss Index) โดยแบ่งเป็น 2 sub-indicator คือ 12.3.1.a Per capita food waste (kg/per year) และ 12.3.1.b Global food loss index